
บทลงโทษในการแข่ง F1 มีอะไรบ้าง
บทลงโทษในการแข่ง F1 มีหลายแบบ เรียงตามความรุนแรงจากเบาไปหาหนัก โดยแต่ละแบบจะมีผลต่อเวลาหรือคะแนนของนักแข่ง รวมถึงอาจมีผลยาวไปถึงสนามถัดไปด้วย สรุปง่าย ๆ ได้ตามนี้:
🟢 1. การตักเตือน (Warning / Reprimand)
-
การตักเตือน (Warning): เป็นการเตือนเบื้องต้น เช่น เมื่อผู้ขับขี่ออกนอกเส้นทาง (track limits) ครั้งแรก
-
การตำหนิ (Reprimand): หากผู้ขับขี่ได้รับการตำหนิ 5 ครั้งในฤดูกาลเดียวกัน จะถูกลงโทษลดอันดับกริด 10 อันดับในสนามถัดไป
🟡 2. การลงโทษด้วยเวลา (Time Penalty)
-
มีทั้งแบบ 5 วินาที และ 10 วินาที
-
หากผู้ขับขี่เข้าพิทอีกครั้ง จะต้องหยุดรอเวลาที่กำหนดก่อนที่ทีมจะสามารถทำงานบนรถได้
-
หากไม่เข้าพิทอีกครั้ง เวลาจะถูกเพิ่มหลังจบการแข่งขัน
🟠 3. การลงโทษผ่านพิท (Drive-Through / Stop-Go Penalty)
-
Drive-Through Penalty: ผู้ขับขี่ต้องขับผ่านพิทเลนโดยไม่หยุด และไม่ให้ทีมทำงานบนรถ
-
Stop-Go Penalty: ผู้ขับขี่ต้องหยุดในพิทเลนเป็นเวลา 10 วินาที โดยห้ามทีมทำงานบนรถระหว่างนั้น
-
ผู้ขับขี่มีเวลา 2 รอบหลังจากได้รับแจ้งเพื่อปฏิบัติตามโทษนี้
🔴 4. Grid Penalty (ลดอันดับสตาร์ทสนามถัดไป)
-
ใช้กับกรณีเปลี่ยนเครื่องยนต์, เกียร์ หรือทำผิดร้ายแรงในการควอลิฟาย
-
เช่น เปลี่ยนชุดอะไหล่, เปลี่ยนเกียร์เกินโควต้า → ถอยกริด 5 อันดับ
⚫ 5. Black Flag (Disqualified / ห้ามแข่งต่อ)
-
โทษสูงสุด
-
ถูกให้ออกจากการแข่งขันทันที
-
ตัวอย่าง: ไม่เชื่อฟังกรรมการ, รถไม่อยู่ในสภาพปลอดภัย
🟣 6. การพักการแข่งขัน (Suspension)
-
หากผู้ขับขี่สะสมคะแนนโทษครบ 12 คะแนนในระยะเวลา 12 เดือน จะถูกพักการแข่งขัน 1 สนาม
-
ตัวอย่างเช่น Kevin Magnussen ถูกพักการแข่งขันที่ Azerbaijan Grand Prix ในปี 2024 หลังสะสมคะแนนครบ 12 คะแนน
🟤 7. การปรับเงิน (Fines)
-
ใช้ในกรณีที่ผู้ขับขี่หรือทีมกระทำผิด เช่น ใช้ภาษาหยาบคายในการแถลงข่าว
-
ตัวอย่างเช่น Charles Leclerc ถูกปรับ €10,000 สำหรับการใช้ภาษาหยาบคายในการแถลงข่าวที่ Mexico City Grand Prix ในปี 2024
อ้างอิง formula1.com